๒๒ - ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๕ เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการการมีส่วนร่วมของชุมชนในยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมแห่งชาติ ณ โรงแรมเอสดี อเวนิว ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯ เพื่อระดมความคิดเห็น การเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ของหน่วยงานภารัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรชุมชน และภาคประชาชน ตั้งแต่ในภาวะปกติ รวมถึงพร้อมที่จะป้องกัน บรรเทา และระงับสาธารณะภัย ภัยความมั่นคง และสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ภัยที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยมีการเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากร การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันคนและชุมชนในการบริหารจัดการภัย การจัดทำรองรับของหน่วยงานภาครัฐ และท้องถิ่น
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ภาคประชาชน มีตัวแทนสภาองค์กรชุมชนตำบล และองค์กรชุมชนจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เข้าร่วมนับ ๑๐๐ คน ในเวทีมีการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับบทบาทชุมชนท้องถิ่นในการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณภัยและด้านความมั่นคง รวมถึงข้อเสนอของชุมชนท้องถิ่น ในการเตรียมความพร้อมของสังคม ในระยะเวลา ๓ วันนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามีส่วนร่วมในการกำหนดยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมแห่งชาติ
สภาประชาชนที่สร้างการมีส่วนร่วมจากการวิเคราะห์ปัญหาชุมชนนำสู่การปฏิบัติและเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้การสนับสนุน โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ใช้ชุมชนเป็นแกนหลักในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่่น
วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555
การมีส่วนร่วมของชุมชนในยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมแห่งชาติ
ป้ายกำกับ:
การเตรียมความพร้อมแห่งชาติ
วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555
ทบทวนกลไก ยุทธศาตร์ เครือข่ายแรงงานนอกระบบพึ่งตนเอง จังหวัดเชียงราย
เริ่มเช้าวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ ร้านอาหารภูแล คณะกรรมการเครือข่ายแรงงานนอกระบบพึ่งตนเอง จังหวัดเชียงราย ได้จัดประชุมทบทวนคณะกรรมการเครือข่ายฯ เนื่องจากครบวาระ ๒ ปี และทบทวนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเครือข่ายฯ ให้มีพลังและความเข็มแข็งเพิ่มมากขึ้น จากที่ประชุมได้ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์หลัก ๖ เรื่อง ดังต่อไปนี้
๑) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสมาชิกและเครือข่าย
๒) การพัฒนาสมาชิก/การขยายกลุ่มองค์กรสมาชิก
๓) การพัฒนาศักยภาพแกนนำ (หลักการ แนวคิด วิทยากรกระบวนการ)
๔) การพัฒนาสื่อ /เครื่องมือ เพื่อการจัดตั้ง/ขยายสมาชิก
๕) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และระบบภาษี
๖) การพัฒนาธรรมนูญเครือข่ายฯ
ส่วนกรรมการเครือข่ายฯ ได้มีมติรับรองคณะทำงานดังต่อไปนี้
๑) นางพรรัตน์ เสนา ประธาน
๒)นางวิไล นาไพวรรณ์ รองประธาน
๓) นางสาวอัญชลี อินต๊ะวงค์ เลขานุการ
๔) นางอำไพวรรณ ปัญญาชัย บัญชี
๕) นางสาวศิรินภา ชัยวงค์ บัญชี/ประสาน อ.แม่จัน
๖) นางลำไพ สารมณี ลำไพ/ประสาน อ.เวียงชัย
๗) นางบูโผ เขียวแล กรรมการ
๘) นางบุตร ธนาคำ กรรมการ
๙) นางเอกวุฒิ ใหญ่วงค์ กรรมการ
๑๐) นางเบญวรรณ ศิริเวชอำนวยกิจ กรรมการ
๑๑) นางเดือนนภา ปัญญาวงค์ ที่ปรึกษา
ตัวแทนเข้าร่วมประชุมระดับภาค/ชาติ
ตัวหลัก
๑) นางวิไล นาไพวรรณ์
๒) นางสาวศิรินภา ชัยวงค์
๓) นางพรรัตน์ เสนา
ตัวเสริม
๑) นางลำไพ สารมณี
๒) นางสาวอัญชลี อินต๊ะวงค์
๓) นางอำไพวรรณ ปัญญาชัย
๑) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสมาชิกและเครือข่าย
๒) การพัฒนาสมาชิก/การขยายกลุ่มองค์กรสมาชิก
๓) การพัฒนาศักยภาพแกนนำ (หลักการ แนวคิด วิทยากรกระบวนการ)
๔) การพัฒนาสื่อ /เครื่องมือ เพื่อการจัดตั้ง/ขยายสมาชิก
๕) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และระบบภาษี
๖) การพัฒนาธรรมนูญเครือข่ายฯ
ส่วนกรรมการเครือข่ายฯ ได้มีมติรับรองคณะทำงานดังต่อไปนี้
๑) นางพรรัตน์ เสนา ประธาน
๒)นางวิไล นาไพวรรณ์ รองประธาน
๓) นางสาวอัญชลี อินต๊ะวงค์ เลขานุการ
๔) นางอำไพวรรณ ปัญญาชัย บัญชี
๕) นางสาวศิรินภา ชัยวงค์ บัญชี/ประสาน อ.แม่จัน
๖) นางลำไพ สารมณี ลำไพ/ประสาน อ.เวียงชัย
๗) นางบูโผ เขียวแล กรรมการ
๘) นางบุตร ธนาคำ กรรมการ
๙) นางเอกวุฒิ ใหญ่วงค์ กรรมการ
๑๐) นางเบญวรรณ ศิริเวชอำนวยกิจ กรรมการ
๑๑) นางเดือนนภา ปัญญาวงค์ ที่ปรึกษา
ตัวแทนเข้าร่วมประชุมระดับภาค/ชาติ
ตัวหลัก
๑) นางวิไล นาไพวรรณ์
๒) นางสาวศิรินภา ชัยวงค์
๓) นางพรรัตน์ เสนา
ตัวเสริม
๑) นางลำไพ สารมณี
๒) นางสาวอัญชลี อินต๊ะวงค์
๓) นางอำไพวรรณ ปัญญาชัย
ป้ายกำกับ:
แรงงานนอกระบบ จังหวัดเชียงราย
วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555
ภาคประชาชนตื่นตัว "ประชาธิปไตยชุมชน"
สมัชชามประชาธิปไตยชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ประจำปี ๒๕๕๕๔ : สภาพัฒนาการเมือง
ณ ห้องวายุกักษ์ โรงแรงเซ้นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ้นเตอร์ แจ้งวัฒนะ มีสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองทั่วประเทศและตัวแทนสภาองค์กรชุมชนแต่ละจังหวัด ๗๗ จังหวัด เข้าร่วม ช่วงเช้าเป็นการนำเสนอเจตนารมณ์ของการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย โดยมีนายโสภณ เพชรสว่าง ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักายกรัฐมนตรีรับมอบข้อเสนอจากผู้แทนสมัชชาฯ พร้อมแถลงแนวทางการสนับสนุนของรัฐบาล ส่วนช่วงบ่ายเป็นการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรนูญว่าด้วยสิทธิชุมชน (มาตรา ๖๖, ๖๗) และร่วมแถลงเจตนรมณ์ร่วมกัน
ในเวทีได้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดการตนเองได้อย่างแท้จริง จำเป็นต้องให้องค์กรภาคประชาชนเป็นองค์กรหลัก และให้ภาครัฐ เป็นองค์กรพี่เลี้ยง โดยมีการบริหารแผนยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่อง การจัดการดิน น้ำ ป่า และที่สำคัญต้องเคารพสิทธิชุมชนท้องถิ่น หรือวัฒนธรรมชุมชนที่เป็นอยู่ในแต่ละภาค อาจมีรูปแบบในการจัดการตนเองที่หลากหลายแตกต่างกันไป และสิ่งเดี่ยวที่ผู้แทนจากทุกภาคพูดตรงกัน คือ ต้องมีกระบวนการการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอนและทุกเรื่อง
ประชาชนทั่วประเทศพร้อมแล้ว ภาครัฐพร้อมหรือยังที่จะก้าวเดินนำพาประเทศไทย สู่ประชาธิปไตยเต็มใบไปพร้อมๆ กัน เป็นเสียงหนึ่งของผู้เข้าร่วมสมัชชาฯ
ณ ห้องวายุกักษ์ โรงแรงเซ้นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ้นเตอร์ แจ้งวัฒนะ มีสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองทั่วประเทศและตัวแทนสภาองค์กรชุมชนแต่ละจังหวัด ๗๗ จังหวัด เข้าร่วม ช่วงเช้าเป็นการนำเสนอเจตนารมณ์ของการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย โดยมีนายโสภณ เพชรสว่าง ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักายกรัฐมนตรีรับมอบข้อเสนอจากผู้แทนสมัชชาฯ พร้อมแถลงแนวทางการสนับสนุนของรัฐบาล ส่วนช่วงบ่ายเป็นการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรนูญว่าด้วยสิทธิชุมชน (มาตรา ๖๖, ๖๗) และร่วมแถลงเจตนรมณ์ร่วมกัน
ในเวทีได้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดการตนเองได้อย่างแท้จริง จำเป็นต้องให้องค์กรภาคประชาชนเป็นองค์กรหลัก และให้ภาครัฐ เป็นองค์กรพี่เลี้ยง โดยมีการบริหารแผนยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่อง การจัดการดิน น้ำ ป่า และที่สำคัญต้องเคารพสิทธิชุมชนท้องถิ่น หรือวัฒนธรรมชุมชนที่เป็นอยู่ในแต่ละภาค อาจมีรูปแบบในการจัดการตนเองที่หลากหลายแตกต่างกันไป และสิ่งเดี่ยวที่ผู้แทนจากทุกภาคพูดตรงกัน คือ ต้องมีกระบวนการการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอนและทุกเรื่อง
ประชาชนทั่วประเทศพร้อมแล้ว ภาครัฐพร้อมหรือยังที่จะก้าวเดินนำพาประเทศไทย สู่ประชาธิปไตยเต็มใบไปพร้อมๆ กัน เป็นเสียงหนึ่งของผู้เข้าร่วมสมัชชาฯ
ป้ายกำกับ:
ประชาธิปไตยชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง
วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555
สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความหลากหลายของระบบนิเวศน์
เป็นความงดงามที่ธรรมชาติได้สร้างมา สังเกตเห็นต้นไม้ในป่าที่มีทั้งไม้สูง
ไม้ต่ำ กล้วยไม้ ใบเฟิรน มอส เห็ด ฯลฯ แต่ละต้นทำหน้าที่ของตนเองได้
อย่างดี และมีประสิทธิภาพ มีความเคารพกันตามธรรมชาติ
..............
การดำรงวิถีชีวิตของชนชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่น/ประเทศ
มีอยู่แบบดั้งเดิม การดำรงอยู่และหากินในตามสภาพธรรมชาติ นับเป็นร้อยปีพันปีหมื่นปี
จวบจนเมื่อมีการกำหนดขอบเขตสังคมประเทศที่ชัดเจน มีขอบเขตของรัฐ
การปกครองที่มีกฏหมาย เมื่อราวห้าหกสิบกว่าปีมานี้เอง
เมื่อการปกครองแบบรัฐเข้ามามีการกำหนดพระราชบัญญัติ และการกำหนดกลุ่มสภา
ในหลายรูปแบบโดยเฉพาะในประเทศไทยมีสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่กำหนดนโยบายการพัฒนาทิศทางใหญ่ของประเทศ หลังจากนั้นมีการจัดตั้ง
สภาพัฒนาการเมือง สภาองค์กรชุมชน เป็นต้น
การพัฒนาสังคมตามโครงสร้างมหภาค มีความจำเป็นที่จะต้องก่อตั้งงาน
ในทุกรูปแบบเป็นระบบเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (คชท.)
ร่วมกับภาคีองค์กรพัฒนาเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนากับชนเผ่า
จึงเห็นความจำเป็นที่จะจัดตั้ง สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย(Council
of Indigenous People in Thailand) เพื่อเป็นกลไกในการกำหนดนโยบาย
การพัฒนาสังคมที่มีชนชาติพันธุ์ และชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ร่วมกัน
การสร้างความเข้มแข็งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ และการสร้างความเข้าใจที่ดี
ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มใหญ่ในสังคม รวมถึงการนำงบประมาณ
มาให้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัมนาชนชาติพันธุ์ในสังคม
และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ สังคมที่จะมั่นคงได้ ต้องดำรงอยู่ด้วยความหลากหลาย
ทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทางองค์ความรู้ ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
ความหลากหลายทางวัยวุฒิประสบการณ์ของผู้คน และอุดมไปด้วยการศึกษา
ที่ตอบสนองต่อความต้องการ และความจำเป็นของคนในสังคม
การมีอยู่ของสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย หรือที่จะใช้ชื่อว่าสภาชนเผ่าพื้นเมือง
และชาติพันธุ์แห่งประเทศไทย จะเป็นกลไกในการรับรองสถานภาพ
และรับรองให้สังคมนานาชาติเห็นความสำคัญของชาติพันธุ์ในสังคม
ซึ่งต้องมีการตระเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจ
มีวิสัยทัศน์ที่พร้อมในการเข้าสู่การเตรียมการ และเข้าสู่กลไกดังกล่าวในอนาคต
ประเด็นหนึ่งที่ที่ประชุมได้พิจารณาร่วมกันคือ การต่อตั้งสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
โดยมีอัตลักษณ์ความเป็นชนเผ่าพื้นเมือง มีความเป็นชนชาติพันธุ์
มีจิตวิญญาณของความเป็นชนชาติพันธุ์ในสภา ฯ ที่ต้องกลับมาพิจารณา
อย่างละเอียดอีกครั้งในวาระต่อไป
การประชุมเพื่อการก่อตั้งสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยยังคงต้องมีอีกหลายครั้ง
ด้วยความมุ่งมั่นของผู้มีจิตอาสาทั้งจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
และผู้ที่มีประสบการณ์ในสังคม เพื่อยกร่างสภา ฯ คาดว่าจะต้องเสร็จสิ้น
ร่างแรกในเดือนกรกฎาคม 2555 และนำมาเสนอเพื่อพิจารณาในเดือนสิงหาคม 2555
ที่มีการจัดมหกรรมชนชาติพันธุ์แห่งประเทศไทยที่กรุงเทพ ฯ
และมันไม่นานเกินรอ.....
........
จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การพัฒนาสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
จากแนวคิดสู่รูปธรรมที่สร้างสรรค์
ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2555 ที่โรงแรมวินเพลส จ.เชียงใหม่
ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/konklaifa
ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/konklaifa
ป้ายกำกับ:
สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)