การดำเนินงานจึงเริ่มจากการจัดเวทีเล็ก ๆ ในระดับกลุ่ม หมู่บ้าน หรือตำบล เพื่อแลกเปลี่ยน ค้นหาสาเหตุของปัญหา ความต้องการ และสิ่งที่ทุกคนในชุมชนอยากให้เป็นในอนาคต พร้อมเสนอทางเลือก ทางออกร่วมกัน ผ่านกระบวนการซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ครอบคลุมรอบด้าน จนก่อเกิดแผนพัฒนาชุมชน ซึ่งจะมีการแบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อนำมาสรุปผลอย่างต่อเนื่อง ทุก ๓ เดือน เป็นการสรุปบทเรียนและวางแผนการทำงานต่อไปแบบเข้าใจสังคมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนแผนใด ปัญหาใดที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยชุมชนได้เอง ก็มีการประสานส่งต่อไปยังหน่วยงาน นับตั้งแต่หน่วยงานท้องถิ่นขึ้นไป
สภาคนฮักเจียงฮาย จึงเกิดจากการรวบรวมข้อมูล ผลการสรุปบทเรียน ผลการดำเนินงาน ชุดประสบการณ์ จากกลุ่มองค์กร เครือข่ายงานประเด็นต่าง ๆ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ เช่น เครือข่ายเกษตรกรจังหวัดเชียงราย เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนจังหวัดเชียงราย เป็นต้น จึงค้นพบข้อสรุปร่วมกันว่า ซึ่งปัญหาใหญ่คือ ประชาชนขาดการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ การพัฒนาจังหวัด เช่น การกำหนดแผนพัฒนาจังหวัด การปฏิบัติการการแก้ไขปัญหา การติดตามประเมินผลการพัฒนา อันเนื่องมาจากกลไกหน่วยงานราชการ ตลอดจนระเบียบปฎิบัติ ไม่เอื้อหรือไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วม ดังนั้นกระบวนการแก้ไขปัญหาของชุมชนท้องถิ่น ต้องดำเนินการไปพร้อม ๆ กันในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจการคลัง ด้านสังคมและวัฒนธรรม
ภายหลังที่คณะกรรมการปฏิรูป สำนักงานปฏิรูปเพื่อสังคมไทยที่เป็นธรรม ได้ประมวลสรุปข้อเสนอเรื่อง การปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ ต่อสาธารณะ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรให้สังคมไทย ขบวนองค์กรประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ออกมาขานรับข้อเสนอดังกล่าวอย่างทั่วหน้า และก่อเกิด "คณะกรรมการปฏิรูปสังคมเชียงเราย" ขึ้น โดยมี คุณวิรุณ คำภิโล ประธานหอการค้าไทย เป็นประธาน คุณประนอม เชิมชัยภูมิ สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง คุณวิรัตน์ พรมสอน เป็นกรรมการฯ และมีนางวิไล นาไพวรรณ์ เป็นผู้ประสานงาน/เลขานุการ จึงได้ขับเคลื่อนประสานความร่วมมือกับ สมัชชาสุขภาพเชียงราย สภาหมอเมือง กลุ่มจุมนุมเก๊าผญา สภาองค์กรชุมชนตำบล สภาพัฒนาการเมือง มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา สมาคมสร้างสรรค์ชีวิตและสิ่งแวดล้อม ม.ราชภัฎเชียงราย สำนักงานเกษตรจังหวัด หอการค้าจังหวัดเชียงราย เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดเชียงราย เครือข่ายชาติพันธุ์ ฯลฯ จึงเวทีปรึกษาหารือตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จึงเกิด " สภาคนฮักเจียงฮายขึ้น" และมีปนิธานร่วมกัน คือ
Øมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา
Øเคารพความหลากหลายทางความคิดและชาติพันธุ์
Øพึ่งตนเองในทุก ๆ ด้าน
เครือข่ายสภาคนฮักเจียงฮาย ได้ให้ความสำคัญการการสื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานให้ชุมชน ผ่านการจัดเวทีระดับล่างสุด ผ่าน Facebook/สภาคนฮักเจียงฮาย อย่างต่อเนื่อง ทุกคนเห็นพ้องต้องในในการขับเคลื่อน เชียงรายมหานครสู่การจัดการตนเอง โดยไม่เร่งก้าวกระโดด หากพี่น้องประชาชนคนเชียงราย ยังไม่เข้าใจทิศทางที่เห็นพ้องต้องกัน หรือยังมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เห็นค้าน จึงจำเป็นต้องทบทวนทิศทางการก้าวสู่ จังหวัดจัดการตนเองเสียใหม่ ซึ่งนั้นแสดงว่า คนเจียงฮายยังไม่พร้อมจริง....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น