ได้ฤกษ์
เปิด พอช. ภาคเหนือ
มุ่งสู่ศูนย์กลางการขับเคลื่อนงานพัฒนาองค์กรชุมชนจัดการตนเอง
เชียงใหม่ : วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ สำนักงานภาคเหนือ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรชุมชน ๑๕ จังหวัดภาคเหนือ เปิดอาคารสำนักงานภาคเหนือ ณ เลขที่ ๕/๕ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่เพื่อเป็นศูนย์กลางการทำงานในระดับภาคร่วมกันของขบวนองค์กรชุมชน ประชาสังคม หน่วยงานภาครัฐ และภาคีในท้องที่ ทั้งนี้ขบวนชุมชนและภาคีพัฒนาร่วมแสดงความยินดีกว่า ๔๐๐ คนโดยได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแสดงความยินดี
นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า
รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีในวันเปิดอาคารสำนักงานภาคเหนือ
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่สำคัญที่พี่น้องขบวนองค์กรชุมชน
๑๕ จังหวัดภาคเหนือ ได้มีศูนย์ประสานงาน
และเชื่อมโยงการทำงานของขบวนองค์กรชุมชนกับหน่วยงานภาคราชการ ภาคประชาสังคม
และภาคีต่างๆ
\ “ในการดำเนินงานของขบวนองค์กรชุมชนในพื้นที่
๑๕ จังหวัดภาคเหนือ ได้รับการหนุนเสริมจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคราชการ
ภาคประชาสังคม ภาคีต่างๆ ซึ่งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
ได้มุ่งเน้นการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง
ประชาชนเป็นแกนหลักในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา
เพื่อให้องค์กรชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”
พลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง
ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า
กระผมมีความยินดีที่วันนี้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานภาคเหนือขึ้น
เพื่อเป็นศูนย์ประสานงาน
และเชื่อมโยงการทำงานของขบวนองค์กรชุมชนกับหน่วยงานภาคราชการ ภาคประชาสังคม และภาคีในท้องที่ต่อไป
“ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ขบวนองค์กรชุมชน ๑๕ จังหวัดภาคเหนือ
จะได้ใช้ประโยชน์จากอาคารสำนักงานภาคเหนือแห่งนี้
เป็นศูนย์กลางการประสานงานของภาคประชาชนอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา
สำนักงานปฏิบัติการภาคเหนือ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช.ภาคเหนือ
มีบทบาทในการสนับสนุนการขับเคลื่อนงานพัฒนาขบวนองค์กรชุมชน ทั้งระดับตำบล จังหวัด
และภูมินิเวศน์ และได้กำหนดยุทธศาสตร์ร่วมในระดับภาคร่วมกัน
ส่งผลให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของขบวนองค์กรชุมชน ภาคประชาสังคม
และภาคีพัฒนาขึ้น ในพื้นที่ทั้ง ๑๕ จังหวัดภาคเหนือ ภายใต้ยุทธศาสตร์
“การฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่น” ที่เน้นการพัฒนาเชิงคุณภาพ โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง เพื่อให้เกิด
“การจัดการตนเอง” ของชุมชนท้องถิ่น
ส่งผลให้เกิดขบวนการพัฒนา
โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งอย่างเป็นรูปธรรมอาทิ
การสนับสนุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบท หรือ
โครงการบ้านมั่นคง ในเขตเมืองจำนวน ๑๓ จังหวัด ๑๐๒ โครงการ ๓๙๖ ชุมชน
มีผู้ได้รับผลประโยชน์ จำนวน ๑๑,๐๐๐ ครัวเรือน ,
การสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล จำนวน ๖๔๕ กองทุน คิดเป็นร้อยละ ๔๔
ของพื้นที่ตำบล/เทศบาล ในพื้นที่ภาคเหนือ
โดยมีการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพโดยชุมชน
เน้นการพึ่งตนเองและการบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน ครอบคลุมสมาชิก
๔๐๐,๐๐๐ ราย และมีทุนหมุนเวียน จำนวน ๗๖ ล้านบาท ,
การสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กำหนดแนวทางการพัฒนาชุมชนของคนในชุมชนท้องถิ่น มีสภาฯ จัดตั้งแล้ว จำนวน ๔๕๖ ตำบล
มีกลุ่มองค์กร ๑๙,๐๐๐ กลุ่ม ,
การสนับสนุนตำบลจัดการตนเอง โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ผนึกพลังชุมชนท้องถิ่น
จัดการตนเอง เพื่อให้ได้แผนพัฒนาของชุมชนท้องถิ่นระดับตำบลและดำเนินการแก้ปัญหาของตนเอง
รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการประสานแผนงาน/ทรัพยากรกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานสนับสนุน
มีผลการดำเนินงาน ๕๔๓ ตำบล
นางทิพย์รัตน์ นพลดารมย์
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) กล่าวว่า
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน มีปรัชญาสำคัญในการขับเคลื่อนงาน คือ
การสนับสนุนให้องค์กรชุมชนเป็นแกนกลางในการพัฒนา ถือว่าวิธีทำสะท้อนวิธีคิด
เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ภายใต้ยุทธศาสตร์องค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก
พื้นที่เป็นตัวตั้ง โดย พอช. มีสำนักงานส่วนภูมิภาค จำนวน ๑๑ สำนักงาน
เป็นศูนย์กลางการประสานงานและเชื่อมโยงการทำงานของขบวนองค์กรชุมชนและภาคีพัฒนาในระดับภาค
ครอบคลุมพื้นที่ ๗๗ จังหวัด
“สำนักงานภาคเหนือ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
มีแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนขบวนงานพัฒนา คือ พัฒนากลไกที่มีพื้นที่กลาง
ที่มีบทบาทเป็นผู้ขับเคลื่อนงานพัฒนารวมทั้งออกแบบการทำงานชุมชนระหว่างเจ้าหน้าที่และขบวนองค์กรชุมชนในระดับภาค
เพื่อเชื่อมประสานระบบงานพัฒนาระดับพื้นที่ทั้งระดับตำบล จังหวัด และภาค
ร่วมกับภาคประชาสังคม หน่วยงานภาครัฐ และภาคีพัฒนา
จากการดำเนินงานที่ผ่านมาได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงประจักษ์ในระบบวิธีคิด
ระบบโครงสร้าง ความสัมพันธ์ และการบริหารงบประมาณ เกิดนวัตกรรมใหม่โดยมีการขับเคลื่อนงานจากฐานรากสู่นโยบาย
เพื่อให้ภาคประชาชนมีที่ยืนทางสังคม มีความเชื่อมั่นในคุณค่าและศักยภาพของตนเอง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการขับเคลื่อนงานขบวนองค์กรชุมชนจะได้รับความร่วมมือจากภาคีหน่วยงานต่างๆ
โดยมีสำนักงานภาคเหนือเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ ต่อไป”
ด้านนายประทีป บุญหมั้นผู้แทนเครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
กล่าวว่า ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา จากการที่ได้ทำงานเป็นทั้งกรรมการร่วมระดับภาคและเป็นตัวแทนชาวบ้าน
ในช่วงที่ผ่านมาเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก คือ
มีงานพัฒนาที่เกิดที่ภาคและที่จังหวัดมากขึ้น
ที่เกิดจากนโยบายการกระจายการสนับสนุนงานพัฒนาลงท้องถิ่น การเข้าร่วมงานกับ พอช.
มีความพึงพอใจที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นชาวบ้านมีส่วนร่วม
และเข้ามาทำงานร่วมกันมากขึ้น ต่างจากเมื่อก่อนที่ต่างคนต่างทำ เห็นว่าตำบลมีการจัดทำข้อมูลมากขึ้น
และส่งข้อมูลมาที่จังหวัด ทำให้จังหวัดมีข้อมูลที่เป็นจริงในการวางแผนพัฒนา
มีสภาองค์กรชุมชนตำบลเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมการทำงาน ทั้งเมืองและชนบท
มีบทบาทในการทำงานร่วมกันมากขึ้น
“และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บ้านใหม่หลังที่สองของหมู่เฮา
จะเป็นสถานที่ใช้ในการเชื่อมโยงและทำงานของภาคชาวบ้าน และหน่วยงานภาคีต่างๆ
ที่จะได้เชื่อมงานจากข้างล่างสู่ระดับนโยบายต่อไป”
ครูมุกดา อินต๊ะสาร เครือข่ายสวัสดิการชุมชน
จ.พะเยา กล่าวว่า
เราพยายามต่อสู้เพื่อให้ทุกคนลุกขึ้นมาจัดการตนเองได้
เรามีบทเรียนประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน
เพื่อให้ทุกคนลุกขึ้นมาจัดการตนเอง โดยใช้ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ขบวน
พอช. เป็นแนวทางที่ดีมากในการเปิดพื้นที่และหาข้อมูลเพื่อหนุนเสริมขบวนองค์กรชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น